คุณกำลังคิดจะหนีจากความน่าเบื่อของการอยู่ในเมืองใช่ไหม เราอยากให้แนะนำให้คุณรู้จักกับภูเขา ปาน ต๊ะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองย่างกุ้ง และสามารถเดินทางที่นั่นได้ในหนึ่งวัน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การเเสวงบุญ หรือจะไปเที่ยวตอนเช้าวันอาทิตย์ ก็ถือว่าเป็นช่วงเป็นเวลาดีที่สุด

เราจะไปเที่ยวภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) ซึ่งอยู่ในอำเภอไต้จี (Tite-Gyi City) จังหวัดมเย้าปาย (The north distric) ภาคย่างกุ้ง (Yangon) การเดินทางไปที่นี่สะดวกมาก ๆ จากเมืองย่างกุ้ง คุณสามารถขึ้นรถขนส่งสาธารณะ (YBS) หมายเลข 37 ที่ป้ายรถเมล์เช่า ทั้ด โหย่ง (Chout-Htet-Yone) การนั่งรถเมล์จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทางด้วย นอกจากนี้ คุณสามารถขึ้นรถเมล์จากจุดนี้ไปลงที่ป้ายรถเมล์หม่อ บี่ (Mhaw-Bi) แล้วขึ้นรถเมล์หมายเลข 37 , 41 , 90 , 91 ซึ่งสามารถเลือกได้ตามที่คุณชอบ ไปลงที่ป้ายรถเมล์หม่อ บี่ เล ที แส่ เช่า (Maw Bi Lay Htee 16) แล้วคุณจะพบกับผู้ให้บริการจักรยานจำนวนมากอยู่ทางด้านขวาของถนน ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าคุณจะไม่จ่ายเงินเกิน 2,500 จั๊ต เพราะว่าเขาอาจจะเรียกเก็บเงินคนต่างถิ่นอย่างคุณมากกว่านั้น

าคุณเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือ เช่ารถเพื่อเดินทางไปยังภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) ก็อาจจะทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น คุณสามารถเดินทางไปที่นั่นได้จากหมู่บ้านหม่อ บี่ วา แน็ก ชาว (Maw Bi War Nat Chaung) หรือ อำเภอไต้จี (Tite-Gyi City) โดยสามารถเดินทางบนถนนย่างกุ้ง-แปร  (Yangon – Pyay Road) คุณจะพบกับทางแยกหมู่บ้านชเว่ เมี๊ยะ หย่า (Shwe Myar Yar) คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความสะดวก เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนเพื่อเดินทางไปเขื่อนพูจี (Phoo Gyi) ที่เพิ่งได้รับการซ่อมแซมเมื่อเร็ว ๆ นี้  ทิวทัศน์ข้างทางก็สวยงามมีทุ่งหญ้าเขียวขจีและภูเขาที่สวยงามคอยต้อนรับคุณอยู่

ถ้าคุณจะไปที่นั่นด้วยรถยนต์ หรือเช่ามอเตอร์ไซค์จากหมู่บ้านวา แน็ก ชาว (War Nat Chaung) คุณจะได้พบกับรูปปั้นตุ๊กตาล้มลุกที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขเป็นสัญลักษณ์บอกทางอยู่บริเวณด้านซ้ายของถนน  โดยคุณจะพบกับตุ๊กตาล้มลุกจุดที่สอง บริเวณทางแยกไปเขื่อนพูจี (Phoo Gyi) และเมื่อคุณพบกับตุ๊กตาล้มลุกเป็นครั้งที่สาม นั่นหมายความว่าคุณได้ถึงปากทางเข้าภูเขาแล้ว

ประวัติของภูเขา ปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint)

พระสงฆ์นามว่า “สะหย่าดอบ้ะดูปยิ่นหย่าต่าย้ะ” (Ba Duu Pyinyar Thar Ya) ซึ่งกำลังจำพรรษาอยู่ ณ ภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) เคยมีความฝันที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ในขณะที่ท่านกำลังถือศีลเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนา ณ อีนตะกอต่าวโตงโลง (Inn Ta Kaw Three mountains) ภาคพะโค (Pegu division) ท่านฝันว่า มีพระรูปหนึ่งชี้ไปยังภูเขา และสั่งให้ท่านไปเผยแพร่ศาสนา ณ ที่แห่งนั้นเป็นครั้งแรก สะหย่าดอบ้ะดูปยิ่นหย่าต่าย้ะ จึงเดินทางมายังภูเขาภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) ในปี 1359 และได้ปลูกต้นไม้ไว้เพื่อเป็นคำปฏิญาณ ชื่อว่า “ปาน ต๊ะ ปวิ่น” (Pann-Ta-Pwint) (หมายถึงดอกไม้) และเป็นดอกไม้ดอกแรกที่บานจากต้นไม้ต้นนั้น

The sceneries of Pan-Ta-Pwint

ภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) มีภูเขาทั้งหมด 3 ลูก ถนนหนทางที่เชื่อมภูเขาทั้ง 3 ลูกก็ได้รับการก่อสร้างอย่างดี และมีเจดีย์อยู่บริเวณยอดเขาของภูเขาทั้ง 3 ลูก

บนยอดเขาลูกที่ 1 เจดีย์องค์แรกถูกล้อมรอบด้วยเจดีย์เล็ก ๆ และพระพุทธรูปปางนาคปรก (Na Ga Yone)

บนยอดเขาลูกที่ 2 มีพระยืนที่มีชื่อว่า “ย้ะ ด่อ มุ พะ ยา จี” (Yat Taw Mu)

บนยอดเขาลูกที่ 2 มีพระพุทธรูปปางนาคปรก (Na Ga Yone) และรูปปั้นของพระมารดากำลังไหว้พุทธรูปอยู่

ในบริเวณของวัดภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) มีมหาวิทยาลัยและโรงเรียนที่สอนด้านพุทธศาสนา โดยเด็ก ๆ สามารถเรียนได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับสูง คุณจะพบว่ามีชาวพื้นเมืองมากมายที่กำลังเรียนอยู่ที่นี่

ยิ่งใกล้ถึงภูเขายอดคุณจะมองเห็นทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม และถนนดินแดง จากบริเวณของเจดีย์ สามารถเห็นเขื่อนพูจี (Phoo Gyi) ที่ไหลไปสู่เมืองย่างกุ้งอีกด้วย สำหรับผู้มี่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ คุณจะได้สัมผัสความสงบร่มเย็นจากทิวทัศน์ของเขื่อนขนาดใหญ่ ข้อมูลเพิ่มเติม คือ เขื่อนพูจี (Phoo Gyi) เป็นเขื่อนที่ส่งน้ำเข้าสู่เมืองย่างกุ้งประมาณ 5,400,000 เเกลลอนในทุก ๆ วัน

การไปเที่ยวภูเขาปาน ตะ ปวิ้น (Pan Ta Pwint) ในตอนบ่ายอาจจะทำให้คุณเหนื่อยล้า เพราะอากาศร้อนมาก เพราะฉะนั้น คุณควรจะเดินทางไปที่นั่นในช่วงเช้าตรู่เพื่อจะได้สัมผัสกับความสดชื่นในยามเช้า

 ระหว่างทางกลับคุณก็สามารถซื้อของฝาก เช่น หนังสือชีวประวัติของพระภิกษุ ปฏิทิน สร้อยคอ และน้ำมนต์

สำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ คุณสามารถถ่ายภาพกับเกวียนของซอจี (Zaw Kyi) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก สิ่งที่สำคัญ คือ ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำเนื้อสัตว์เข้าไปในวัด

        แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลวัดจะคอยบริการเรื่องอาหารประเภทผักสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมวัด ที่นี่มีอาหารหลายอย่างไว้บริการ เช่น มะเขือเทศผัดเปรี้ยวหวาน แกงจืดน้ำเต้า ผัดดอกกะหล่ำ มะเขือต้ม และอาหารอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าเมื่อคุณจะได้ลิ้มลองอาหารเหล่านี้ หลังจากที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการปีนเขา เราจะไม่มีคำพูดอะไรเกี่ยวกับเมนูที่ไม่มีอาหารประเภทเนื้อสัตว์เลย

หลังจากรับประทานอาหารและขอพรเสร็จแล้ว เราขอแนะนำให้คุณออกไปซื้อของฝากตามร้านค้าก่อนที่จะมืด ร้านค้าเหล่านี้จะขายพืชผักที่ปลอดสารพิษเท่านั้น หากคุณเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แต่สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยรถเมล์ ก็ต้องรีบนิดหน่อยเพราะถ้าช้าอาจจะหารถเมล์กลับไม่ทัน สุดท้ายนี้ เราหวังว่าคุณทุกคนจะมีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมและผ่อนคลายเมื่อได้ไปเที่ยวที่วัด